ไป่ ทากล นายแบบดังชาวพม่า หายตัวลึกลับ ครอบครัวยังติดต่อไม่ได้ หลังเจ้าตัวออกมาชุมนุมต่อต้าน รัฐประหารเมียนมา พี่สาววอนแฟนคลับช่วยตามหา ไป่ ทากล นายแบบดังชาวเมียนมา ที่ครองใจสาวไทยมานานหลายปี คือผู้แสดงความไม่เห็นด้วยกับ รัฐประหารเมียนมา อย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากพล.อ. มิน อ่อง หล่าย นำกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองจากพรรค NLD และจับกุมตัว อองซานซูจี ประธานาธิบดีวิ่น มหยิ่น และสมาชิกรัฐสภาอีกหลายราย
เขาทั้งโพสต์ข้อความประณาม เรียกร้องต่างชาติให้เข้ามาช่วยเหลือ
และเปลี่ยนรูปโปรไฟล์สวมเสื้อสีแดง ที่มีโลโก้พรรค NLD และ ชู 3 นิ้ว รวมถึงร่วมชุมนุมกับประชาชนเพื่อต่อต้านรัฐประหาร ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ผู้ใช้ Facebook ชื่อ May Chit Thway ซึ่งเป็นพี่สาวของไป่ ทากล ได้ออกมาโพสต์ตามหาน้องชาย เนื่องจากคนในครอบครัวไม่มีใครติดต่อได้เลย วอนคนรู้จักหรือแฟนคลับให้ช่วยตามหาอีกแรงหนึ่ง เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย
โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 63 ปีที่ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะเริ่มมีอาการหายใจไม่สะดวกในสองวันถัดมา ซึ่งผู้ตายได้รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามชายวัย 63 ปีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันเดียวกัน แม้ว่าในคำแถลงการจะไม่มีการระบุแน่ชัดว่าผู้เสียชีวิตใช้วัคซีนยี่ห้อใด แต่ในขณะนี้ทางการฮ่องกงใช้วัคซีนต้านโควิดจากบริษัท ซิโนแวค บริษัทสัญชาติประเทศจีน เพียงชนิดเดียวเท่านั้น
ฮ่องกงเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสถิติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดเผยว่ามีประชาชนมากกว่า 40,000 คนที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดเผยว่ามีประชาชนมากกว่า 250,000 คน ลงทะเบียนรอรับวัคซีน ขณะนี้ฮ่องกงมียอดผู้ป่วยสะสมโรคโควิด-19 มากกว่า 11,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้ว 200 ศพ เท็กซัส ประกาศสั่งผ่อนมาตรการป้องกันโควิด พร้อมเดินหน้า เปิดเมือง อย่างเต็มกำลัง แม้ว่ารัฐบาลของ ไบเดน จะเตือนว่ามาตรการยังคงจำเป็นอยู่
โควิดสหรัฐฯ – เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย เกร็ก แอ็บบอท ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศเตรียมเปิดเมืองพร้อมสั่งผ่อนมาตรการป้องกันโควิด เช่นบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และ อนุญาตให้ร้านค้าต่างๆสามารถเปิดทำการได้อีกครั้ง ถือเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดที่ผ่อนคำสั่งดังกล่าว โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 10 มีนาคมที่จะถึงนี้
นาย แอ็บบอท ระบุว่าถึงเวลาที่จะเปิดรัฐเท็กซัสอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบุว่าประชาชนชาวเท็กซัสจำนวนมากพลาดโอกาสว่าจ้างเข้าทำงาน และกิจการขนาดเล็กหลายแห่งต้องเผชิญกับภาระค่าใช้จ่าย และเขาต้องการให้ปัญหาเหล่านี้สิ้นสุดลง
ผู้ว่ารัฐเท็กซัสกล่าวอีกว่าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและการพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วย ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของรัฐเท็กซัสในขณะนี้ดีขึ้น แม้ว่าโควิดจะไม่หายไป แต่รัฐเท็กซัสไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันโควิดแล้ว
รัฐเท็กซัสมียอดผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากกว่า 2.6 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 44,000 ศพ โดยรัฐเท็กซัสถือเป็นรัฐที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากที่สุดในประเทศ รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย
อย่างไรก็ตามด้านรัฐบาลของนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ยังถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ในขณะนี้
ญี่ปุ่นวอนจีนหยุด ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก กับชาวญี่ปุ่น
ทางการญี่ปุ่นวอนจีนให้หยุด ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก หลังชาวญี่ปุ่นฟ้องว่าพวกเขาถูกตรวจวิธีดังกล่าวและส่งผลให้พวกเขามีปัญหาสุขภาพจิต โควิดจีน – เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นได้วอนให้ทางการจีนหยุด ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก กับประชาชนชาวญี่ปุ่น หลังจากที่มี ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศจีนจำนวนหนึ่งได้ร้องกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศจีน ว่าพวกเขาต้องผ่านกระบวนการดังกล่าว
โดยชาวญี่ปุ่นระบุว่าการ ตรวจโควิดผ่านทางทวารหนัก นั้นสร้างความเครียดและทำให้พวกเขาเกิดสภาวะปัญหาสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามไม่มีตัวเลขชัดเจนว่ามีชาวญี่ปุ่นกี่คนได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธีดังกล่าว ทางการญี่ปุ่นยังระบุอีกว่า ในขณะนี้ทางการจีนยังไม่ได้ตอบรับข้อเรียกร้องของพวกเขา
ญี่ปุ่นไม่ใช่ชาติแรกที่ออกมาร้องเรียนขอให้ทางการจีนหยุดตรวจหาโควิดด้วยวิธีดังกล่าว เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯได้ออกมาร้องขอถึงประเด็นดังกล่าวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีทางการจีนปฏิเสธว่า ทูตสหรัฐฯที่เดินทางถึงจีนถูกตรวจหาเชื้อด้วยวิธีนี้
ก่อนหน้านี้ประเทศจีนได้ทำการตรวจหาโควิดผ่านทางรูทวาร เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยเจ้าหน้าที่ใช้สำลีที่มีความยาวราวๆ 3 ถึง 5 เซนติเมตรสอดเข้าไปรูทวาร และหมุนสำลีเบาๆ ซึ่งทางการระบุว่าวิธีดังกล่าวจะสามารถช่วยให้สามารถตรวจหาเชื้อที่ตกค้างได้ง่ายขึ้น และเชื้อที่อยู่ในรูทวารจะอยู่ได้นานกว่าจมูก และ คอ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าวิธีการตรวจหาเชื้อดังกล่าวสามารถใช้ได้จริง และตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ด้วยวิธีนี้มาแล้ว นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังยืนยันว่าวิธีดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการตรวจหาโรคได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง